Tag Archives: เพลงฝากรัก

Breathe for the Seeds

10 Aug

inthegarden

ลมหายใจแห่งชีวิต
ด้วยลมหายใจ นั่นคือชีวิตเรา
ด้วยลมหายใจ นั่นคือสิ่งคอยช่วยเรา
ด้วยลมหายใจ โลกและเรา ไปด้วยกัน
เราจึงหายใจ พร้อมกับหมู่ดอกไม้งาม
หายใจด้วยปราณี เพื่อความสุขของเรา

เราจะหายใจ เพื่อเป็นหนึ่ง กับสายลม
เราจะหายใจ เพื่อเป็นหนึ่ง กับสายธาร
เราจะหายใจ เพื่อเป็นหนึ่ง กับพื้นดิน
เราจะหายใจ พร้อมเปลวไฟ ในร่างเรา
ไม่คิดกังวล ทุกข์ในความตายหรือเกิด
เพราะชีวิตเราทุกคน ล้วนอนิจจัง

โปรดจงหายใจ เพื่อความสุขศานติ
โปรดจงหายใจ เพื่อคลายความทุกข์ตรม
โปรดจงหายใจ เพื่อเซลล์ใหม่ที่แข็งแรง
โปรดจงหายใจ ด้วยจิตอันมั่นคง
เพื่อดำรงใจ ในปัจจุบันไว้ก่อน
แล้วจะพบความจริง คือ สัจธรรม แน่นอน

Breathe, You are alive
Breathe, and you know that you are alive,
Breathe, and you know that all is helping you.
Breathe, and you know that you are the world
Breathe, and you know that the flower is breathing too.
Breathe for yourself, and breathe for the world,
Breathe in compassion, and breathe out the joy

Breathe, and be one with the air that you breathe,
Breathe, and be one with the river that flow.usness.
Breathe, and be one with the earth that you tread,
Breathe, and be one with the fire that you tread,
Breathe, and you break the thought of birth anddeath,
Breathe and you see impermanence is life.

Breathe for the joy to be steady and calm,
Breathe for your sorrow to flow away.
Breathe to renew every cell in your blood,
Breathe to renew the depth of consciousness.
Breathe and you dwell in the here and now,
Breathe and all you touch is new and real.

ภาวนาด้วยหัวใจ : Practice from the Heart
คู่มือภาวนาตามแนวทางหมู่บ้านพลัม (Thai Plum Village)*

ในสวนแห่งชีวิต มีเมล็ดพันธุ์ที่เป็นกิเลสอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าเมล็ดพันธุ์แห่งความสุข และก็มีเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์ด้วยเช่นกัน ซึ่งถูกวางอยู่ในพื้นดินในจิตใจของเรา และถ้ามีเหตุปัจจัยที่สมบูรณ์ มันก็จะเติบโตขึ้นจนครอบคลุมชีวิตของเราไปทั้งชีวิตเลยก็ว่าได้

ชีวิตที่ผ่านมาอาจเคยมีใครทำให้เราสูญเสียความมั่นใจ ผิดหวัง กลัว หมดกำลังใจ เหมือนมีเมล็ดพันธุ์ของความเศร้าและความเหงามาอยู่ในสวนของเรา โดยที่เราก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน มาได้อย่างไร

นึกถึงตอนที่เรายังเป็นเด็ก ก็จะมีพ่อและแม่คอยปลอบโยนเรา “แม่อยู่นี่แล้ว ไม่ต้องร้องนะ” เสียงของแม่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยหายกลัวหายกังวลใจ แต่ความกลัวมันไม่เคยหายไปไหน แม้ว่าเราจะอายุมากขึ้นเราก็ยังกลัว

แล้วเมื่อเราโตขึ้นล่ะ เราจะละวางซึ่งกิเลส ความเศร้า ความเสียใจได้อย่างไร?
หลวงปู่ ติช นัท ฮันห์* แนะว่า  การปฏิบัติธรรมช่วยเราได้เหมือนอย่างที่พ่อแม่ช่วยเราตอนเป็นเด็ก เป็นการช่วยให้ตัวเราพ้นทุกข์ด้วยตัวเราเอง สอนให้เราเรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเอง ยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเสมอ

การปฏิบัติธรรมสอนให้เรารู้ว่ามีเมล็ดพันธุ์อะไรอยู่ในตัวเราบ้าง ฝึกให้เรารู้จักกำจัดเมล็ดพันธุ์ที่ทำให้เราทุกข์ และเรียนรู้วิธีรดน้ำเมล็ดพันธุ์ที่ทำให้เรามีความสุข ดูแลเมล็ดพันธุ์ในตัวเราด้วยการเลือกสิ่งแวดล้อมที่ดี ให้เมล็ดพันธุ์ของเราได้สัมผัสกับดิน น้ำ ลม แสงแดด และอากาศที่ดี การรับรู้ที่ดีจะทำให้เกิดความทรงจำที่ดี ที่มีผลต่อเนื่องกับชีวิตของเรา ดังนั้นในชีวิตประจำวัน เราควรฝึกปฏิบัติอยู่เสมอ อย่ารอให้ทุกข์ก้อนใหญ่มาหาแล้วจึงค่อยปฏิบัติ

เราต้องมองให้ลึกและยิ้มกับตัวเอง และต้องคอยบอกเด็กเล็กๆ ในตัวเราว่า “หนูจ๋า ฉันรู้ว่าเธอยังกลัว ฉันเข้าใจ แต่ดูซิ ฉันเป็นผู้ใหญ่ของหนูแล้ว เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราสามารถที่จะดูแลตัวเองได้ อย่ากังวลไปเลย”   เราต้องคอยพูดปลอบเด็กหวาดกลัวในตัวเรา จนกระทั่งเราเป็นอิสระ

เราควรทำให้การปฏิบัติเป็นเรื่องรื่นรมย์ ปีติ และมีความสุข  เมื่อเราเดินในสวนที่บ้าน แค่เราหายใจเข้าออกอย่างมีสติ ระลึกรู้อยู่กับลมหายใจและยิ้ม ขณะนั้นเรากำลังปฏิบัติธรรม วินาทีที่เรียนรู้ที่จะหายใจอย่างมีสติอยู่กับปัจจุบัน ‘ ค ว า ม สุ ข ’ ก็อยู่ที่นั่นแล้ว…

 

ภาพพู่กัน : หลวงปู่ ติช นัท ฮันห์


*หลวงปู่ ติช นัท ฮันห์   http://www.thaiplumvillage.org/about_thay.html
*หมู่บ้านพลัม ประเทศไทย  http://www.thaiplumvillage.org/